top of page
TFRS9 ECL Accounts Receivable (AR) (ABS)

TFRS 9 - Expected Credit Loss (ECL) สำหรับลูกหนี้การค้าคือ ?

การประเมิน ECL สำหรับลูกหนี้การค้า คือการวิเคราะห์ประเมินความเสี่ยงด้านเครดิตที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เพื่อคำนวณ “ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น” (Expected Credit Loss – ECL) ตามมาตรฐาน TFRS 9 / IFRS 9 ลูกหนี้การค้า (Account Receivable) คือ ยอดหนี้ที่กิจการมีสิทธิได้รับจากลูกค้า ซึ่งโดยทั่วไปจะมีการออกใบแจ้งหนี้พร้อมวันครบกำหนดชำระ ถึงแม้ลูกหนี้จะชำระตรงเวลาตลอด แต่หากมีปัจจัยภายนอกหรือสภาวะเศรษฐกิจเปลี่ยนแปลง ก็อาจเกิดความเสี่ยงผิดนัดชำระได้ ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิด Forward-looking view ของ TFRS 9 ที่เน้นให้พิจารณาปัจจัยที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เช่น แนวโน้มเศรษฐกิจ อัตราการว่างงาน การเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรม ฯลฯ เพื่อสะท้อนความเสี่ยงอย่างรอบด้านและแม่นยำยิ่งขึ้น

นอกจากลูกหนี้การค้าแล้ว เครื่องมือทางการเงินอื่นที่มีลักษณะคล้ายกัน เช่น เงินทดรองจ่าย เงินประกันผลงาน เงินที่รับรู้รายได้ล่วงหน้าตามความคืบหน้าของผลงาน ก็จะต้องประเมิน ECL ด้วยเช่นกัน เพื่อสะท้อนความเสี่ยงที่แท้จริงของสินทรัพย์ทางการเงินในงบการเงินของกิจการ

TFRS 9 - ECL

มาตรฐาน TFRS 9 เริ่มใช้เมื่อไหร่ ?

ตามมาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับที่ 9 หรือ TFRS 9 / IFRS 9 ได้มีการปรับเปลี่ยนแนวทางการรับรู้ผลขาดทุนด้านเครดิต จากเดิมที่รับรู้เมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นแล้ว (Incurred Loss Model) เป็นการประเมิน “ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น” (Expected Credit Loss – ECL) เพื่อสะท้อนแนวคิด Forward-looking ซึ่งช่วยให้บริษัทสามารถประเมินความเสี่ยงจากเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ลดข้อจำกัดของ Model แบบเดิม โดยมีผลบังคับกับบริษัทที่ใช้มาตรฐานบัญชีชุดใหญ่หรือกิจการที่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (Publicly Accountable Entities: PAEs) ตั้งแต่รอบบัญชี 1 มกราคม 2563 เป็นต้นไป

 

ECL ลูกหนี้ สำคัญอย่างไร? ทำไมต้องประเมิน Expected Credit Loss ตาม TFRS 9

การประเมินผลขาดทุนทางด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นของลูกหนี้การค้า (ECL ลูกหนี้) มีบทบาทสำคัญในการช่วยให้บริษัทสามารถวางแผนการดำเนินกิจการและบริหารความเสี่ยงทางการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยกตัวอย่างเช่น

  • สะท้อนมูลค่าที่แท้จริงของลูกหนี้ – ช่วยให้บริษัทรับรู้สถานะของลูกหนี้และมูลค่าที่แท้จริงในงบการเงินได้อย่างเหมาะสม

  • วางแผนความเสี่ยงล่วงหน้าได้ - บริษัทสามารถปรับปรุงนโยบายบริหารความเสี่ยงได้อย่างทันท่วงที โดยไม่จำเป็นต้องรอให้ลูกหนี้เกิดความเสี่ยงมากขึ้น หรือมีการผิดนัดชำระก่อน

  • เสถียรภาพของงบการเงิน - การตั้งสำรอง ECL อย่างเป็นระบบ ช่วยลดความผันผวนของงบการเงิน เมื่อเทียบกับการไม่ประเมินความเสี่ยงของลูกหนี้การค้าไว้ล่วงหน้า

 

บริษัทประเภทใดที่ควรทำการประเมินลูกหนี้การค้า หรือ ECL ลูกหนี้ ?

ในความเป็นจริง ไม่ว่าบริษัทจะประกอบธุรกิจประเภทใด หากมีการทำธุรกรรมที่มีลักษณะเป็น "สัญญาทางการค้า" (ฝ่ายหนึ่งเป็นลูกหนี้ และอีกฝ่ายเป็นเจ้าหนี้) เช่น การซื้อขาย หรือให้บริการระหว่างบริษัทหรือบุคคล บริษัทในฐานะเจ้าหนี้ควรพิจารณาประเมิน “ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น” (Expected Credit Loss – ECL) เพราะเจ้าหนี้นั้นต้องแบกรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต หากลูกหนี้ไม่สามารถชำระหนี้ตามที่ตกลงไว้ได้ ไม่เฉพาะลูกหนี้การค้าเท่านั้น เครื่องมือทางการเงินอื่นที่มีลักษณะคล้ายกัน เช่น เงินทดรองจ่าย เงินประกันผลงาน เงินที่รับรู้รายได้ล่วงหน้าตามความคืบหน้าของผลงาน ต่างก็มีความเสี่ยงด้านเครดิตเช่นกัน เนื่องจากแสดงอยู่ในงบการเงินของบริษัทในฐานะ “สินทรัพย์”

ดังนั้น แม้บริษัทจะไม่ได้อยู่ภายใต้ข้อบังคับของมาตรฐานบัญชีชุดใหญ่ (PAEs) การประเมิน ECL ก็ถือเป็นแนวทางที่เหมาะสมในการเฝ้าระวังและบริหารความเสี่ยงด้านเครดิตได้อย่างรอบคอบ

TFRS 9 - ECL

TFRS 9 - ECL ลูกหนี้ประเมินอย่างไร? วิธีคำนวณผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นสำหรับลูกหนี้การค้า

บริษัท ABS มีความเชี่ยวชาญและความชำนาญในการประเมินผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (Expected Credit Loss – ECL) สำหรับลูกหนี้การค้า ภายใต้มาตรฐาน TFRS 9 / IFRS 9 สำหรับลูกหนี้การค้า TFRS 9 อนุญาตให้ใช้ “Simplified Approach” ซึ่งช่วยลดความซับซ้อนในการประเมิน ECL โดยไม่ต้องวิเคราะห์ความเปลี่ยนแปลงของความเสี่ยงด้านเครดิต (Significant Increase in Credit Risk - SICR) แยกตาม Stage 1, 2 หรือ 3 เหมือนกับเครื่องมือทางการเงินอื่น ๆ

ตัวอย่างวิธีการประเมิน ECL ลูกหนี้การค้าที่นิยมใช้ ได้แก่:

  1. Transition Matrix Method

  2. Benchmarked Loss Rate (Credit Rating Method)

  3. Chain Ladder Method (เฉพาะ ABS)

การประเมินผลขาดทุนทางด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นของลูกหนี้การค้า หรือ ECL ลูกหนี้การค้า มีจุดประสงค์หลักเพื่อช่วยให้บริษัทสามารถวางแผนและบริหารความเสี่ยงทางการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านการตั้งค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (Expected Credit Loss) ไม่ว่าบริษัทจะอยู่ภายใต้มาตรฐานบัญชีชุดใหญ่ (PAEs) หรือชุดเล็ก (NPAEs) การประเมิน ECL ก็ถือเป็นเครื่องมือสำคัญในการสะท้อนความเสี่ยงของสินทรัพย์ได้อย่างเหมาะสม 
 

ABS รับประเมินผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นของลูกหนี้การค้า (TFRS 9 - ECL) ตามหลักเกณฑ์ของ TFRS 9

จากประสบการณ์ในการประเมินและการทำงานของ ABS เราได้พัฒนาแนวทางการประเมินผลขาดทุนด้านเครดิต (ECL) ที่สามารถลดข้อจำกัดของโมเดลทั่วไป และปรับให้สอดคล้องกับนโยบายการดำเนินงานของแต่ละบริษัท เพื่อประเมินผลขาดทุนด้านเครดิตได้อย่างเหมาะสม อ้างอิงหลักการประเมินที่มีการศึกษาภายในของทาง ABS คือ “Chain Ladder Method”

ไม่เพียงแต่พิจารณาสถิติในอดีตเท่านั้น แต่ยังรวมถึงข้อมูลที่คาดการณ์อนาคต (Forward - Looking Information) เช่น อัตราการว่างงาน อัตราเติบโตของ GDP และปัจจัยเศรษฐกิจอื่น ๆ เพื่อให้การประมาณการค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตมีความแม่นยำและเป็นปัจจุบันอยู่เสมอ

ด้วยแนวทางนี้ ABS สามารถช่วยบริษัทคำนวณ ECL ได้อย่างแม่นยำ และสามารถที่จะสะท้อนมูลค่าที่แท้จริงออกมาได้อย่างเหมาะสมและเป็นไปตามเงื่อนไขและข้อกำหนดของ TFRS 9 ได้อย่างครบถ้วน

banner services 3-02.jpg
banner services 3-03.jpg
banner services 3-04.jpg
banner services 3-05.jpg
banner services 3-06.jpg
banner services 3-07.jpg
banner services 3-08.jpg
banner services 3-09.jpg
banner services 3-22.jpg
banner services 3-23.jpg
banner services 3-24.jpg
Clienstt-01.jpg
Clienstt-04.jpg

ลูกค้าของเรา

bottom of page